สสว.คาดจีดีพี SMEปี’67โต4-5% เปิด6ธุรกิจดาวรุ่งพุ่งแรง “เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ” นำโด่ง

Categories :

Public : 12/18/2023

สสว. คาดการณ์ปี 2567 GDP SME โต 4-5% พร้อมเปิดโผ 6 ธุรกิจดาวรุ่งพุ่งแรงประจำปี 2567 ธุรกิจเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ ธุรกิจผลิตน้ำอัดแก๊สและโซดา ร้านตัดเย็บและซ่อมเครื่องแต่งกาย กิจกรรมสันทนาการ บริการงานศพครบวงจร และธุรกิจร้านเสริมสวย ส่วนธุรกิจเข้าข่ายต้องเฝ้าระวัง คือ ธุรกิจขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มือสอง ที่มีการหดตัวลงถึง 82% เและธุรกิจเกสเฮาส์ ที่หดตัวถึง 65%

 

นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า ปี 2567 สสว. คาดการณ์แนวโน้มการเติบโตผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศของวิสาหกิจขนาดกลางและย่อมหรือ GDP SME อยู่ระหว่าง 4–5% โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากแนวโน้มการท่องเที่ยวและการส่งออกที่มีทิศทางฟื้นตัวแต่ยังคงมีปัจจัยเสี่ยงทั้งความขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์ หนี้ครัวเรือนของไทยที่ยังสูง รวมถึงอัตราดอกเบี้ยที่ทรงตัวระดับสูง ฯลฯส่งผลต่อกำลังซื้อ รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศฯลฯนับเป็นความท้าทายSMEต้องปรับตัวเพื่อรับมือโดยเฉพาะเทรนด์ ธุรกิจสีเขียวสู่ความยั่งยืนซึ่งเป็นการทำธุรกิจควบคู่ไปกับความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากจะช่วยในด้านภาพลักษณ์ทางการตลาดให้กับสินค้าและบริการของ SME แล้วยังสนับสนุนเป้าหมายยุทธศาสตร์ของประเทศในการขับเคลื่อน BCG Model และลดโลกร้อน

 

สำหรับผลการศึกษาสถานการณ์และแนวโน้มการดำเนินธุรกิจของ SME โดยพิจารณาจากตัวชี้วัดสำคัญคืออัตราการเติบโตของธุรกิจเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมามีดังนี้ กลุ่มธุรกิจที่เป็นดาวรุ่งต่อเนื่องสองปีซ้อน ได้แก่

1. ธุรกิจขายของชำ หรือ ร้านโชห่วย ซึ่งเติบโตถึง 940% เนื่องจากร้านค้าเหล่านี้ สามารถซื้อสินค้าครั้งละน้อย ๆ และยังยืดหยุ่นในการชำระเงินได้ อีกทั้งยังมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับคนในชุมชน

2. ธุรกิจท่องเที่ยวชุมชนสัมผัสวัฒนธรรมชนบท เติบโตถึง 187% หลังสถานการณ์โควิด-19 เทรนด์นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางท่องเที่ยวสัมผัสธรรมชาติมากขึ้น

3. ธุรกิจขายของในบ้านมือสอง และซ่อมเฟอร์นิเจอร์ เติบโตกว่า 263% เนื่องจากราคาซ่อมมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการจัดซื้อใหม่ อีกทั้งกำลังซื้อที่ลดลง ประกอบกับเทรนด์การรักษ์โลก 4. ธุรกิจเกี่ยวกับสื่อ เช่น การตัดต่อ และการจัดผังรายการ เติบโตที่ 199% เนื่องจากหลังโควิด-19 ธุรกิจเกี่ยวกับสื่อปรับกลยุทธ์ขยายแพลตฟอร์มไปทางกลุ่มสื่อออนไลน์เพิ่มขึ้น เกิดช่อง Youtube ของคนไทยเป็นจำนวนมาก 5. ธุรกิจผับ บาร์ และร้านที่ขายแอลกอฮอล์เป็นหลัก เติบโต 125% เนื่องจากหลังโควิด-19 มีการท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติกลับมาใช้ชีวิตยามราตรีได้ตามปกติ สอดคล้องกับการท่องเที่ยวที่ขยายตัว

กลุ่มธุรกิจดาวรุ่งพุ่งแรงในปี 2567 ที่เพิ่มขึ้นมาจำนวน 6 อันดับ ได้แก่ 1. ธุรกิจเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ ที่มีอัตราการเติบโตสูงถึง 1,925% ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่จาก พื้นที่ในที่พักมีจำกัด ลดค่าใช้จ่ายในการซื้อเครื่องซัก-อบที่มีราคาสูง คาดจะขยายตัวในเขตชุมชนจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ แต่เริ่มมีการแข่งขันเข้มข้นในธุรกิจนี้ 2. การผลิตน้ำอัดแก๊สและโซดา มีอัตราการเติบโต 1,109% หลังสถานการณ์โควิดคลี่คลายเพราะมีรูปแบบแปลกใหม่มากขึ้นทั้งในรูปน้ำผลไม้ต่าง ๆ จากแต่ละท้องถิ่นที่นำมาอัดแก๊ส 3. ร้านตัดเย็บและซ่อมเครื่องแต่งกาย เช่นการแก้ทรงเสื้อ การตัดขากางเกง เติบโต 667% จากที่เศรษฐกิจเติบโตอย่างชะลอตัว

 

4. กิจกรรมสันทนาการ เช่น ร้านขายเครื่องดนตรี ร้านเกม มีอัตราการเติบโต 349% เนื่องจากสามารถรวมตัวกันทำกิจกรรมบันเทิง งานแสดงดนตรี หรือร้านเกม เปิดได้ตามปกติทำให้กิจกรรมนี้กลับมาเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว 5. บริการเกี่ยวกับงานศพครบวงจร เติบโต 285% เพราะประเทศไทยเข้าสู่สังคมสูงวัยธุรกิจนี้ยังมีแนวโน้มที่จะเติบโตได้ต่อเนื่อง และ6. ธุรกิจร้านเสริมสวย เติบโต 193% ผลจากการเริ่มฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ กิจกรรมบันเทิงและความงามยังคงเป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจ

 

ส่วนธุรกิจในกลุ่มเฝ้าระวัง มีทั้งธุรกิจที่อยู่ในกลุ่มเฝ้าระวัง 2 ปีต่อเนื่อง 2566 และ 2567 คือ ธุรกิจหอพักนักศึกษา เนื่องจากสถานศึกษาในระดับต่าง ๆ มีการเรียนการสอนแบบออนไลน์มากขึ้น รวมทั้งมีทางเลือกของที่พักในรูปแบบอื่น ๆ โดยนักศึกษาส่วนใหญ่เลือกพักห้องเช่าแบบอพาร์ทเม้นท์และคอนโดมิเนียมเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันมีธุรกิจที่เริ่มต้องเฝ้าระวังในปี 2567 เนื่องจากเคยเป็นกลุ่มที่มีอัตราการเติบโตสูงจากปี 2566 แต่ในปี 2567 กลับมีแนวโน้มชะลอตัวลง มีจำนวน 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1. ร้านขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มือสอง เช่น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ หดตัวมากถึง 82% อันเนื่องมาจาก สินค้าอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีในปัจจุบันมือหนึ่งราคาถูกลงมาก

 

2. ธุรกิจขายงานฝีมือและของที่ระลึก เช่น เครื่องเงิน เครื่องจักรสาน หดตัวถึง 75% เนื่องมาจากการขายสินค้าในออนไลน์เป็นที่นิยม และมีสินค้าเกือบทุกประเภทขายบนออนไลน์ และ3. ธุรกิจเกสเฮ้าส์หรือที่พักขนาดเล็ก หดตัวกว่า 65% ที่ก่อนหน้าโตเพราะผลจากโควิด-19 ที่ราคาไม่สูงนัก แต่หลังโควิด-19 ผ่านไป พฤติกรรมการท่องเที่ยวเปลี่ยนไป นักท่องเที่ยวนิยมพักระยะสั้น-กลาง หันไปนิยมห้องพักที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากกว่า หรือเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวแบบครอบครัวมากขึ้น