ThaiBMA ยืนเป้าหุ้นกู้เอกชนปีนี้ทะลุ 1ล้านล้าน ต้นไตรมาส2ธุรกิจขนาดใหญ่จ่อระดมทุนอีกเพียบ! ส่วนไตรมาสแรก ออกไปแล้ว 2.7 แสนล้าน เหตุดอกเบี้ยถูกกว่าระบบธนาคารอื้อ
Categories :
Public : 04/05/2023
ThaiBMA ยืนเป้าหุ้นกู้เอกชนปีนี้ทะลุ 1ล้านล้าน ต้นไตรมาส2ธุรกิจขนาดใหญ่จ่อระดมทุนอีกเพียบ! ส่วนไตรมาสแรก ออกไปแล้ว 2.7 แสนล้าน เหตุดอกเบี้ยถูกกว่าระบบธนาคารอื้อ
-ไม่กังวล กรณี AT 1 ของCS เพราะระบบธนาคารไทยแข็งแรงแบงก์ออกหุ้นกู้ประเภทAT2เป็นหลักมีครบกำหนดแค่7,000ล้านบาท มองมุมกลับ อาจเห็นแบงก์ที่ออกหุ้นกู้ต่างประเทศหันกลับมาออกหุ้นกู้ในไทยแทนดอกเบี้ยถูกว่า
ดร.สมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) กล่าวว่า ตลาดตราสารหนี้ไทยเติบโตได้ต่อเนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยมูลค่าคงค้างตลาดตราสารหนี้ไทย ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2566 ขยายตัว 2.0% จากสิ้นปีที่แล้ว มาอยู่ที่ 16.1 ล้านล้านบาท เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของมูลค่าคงค้างตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐบาลและภาคเอกชนเป็นสำคัญ
ด้านการออกตราสารหนี้ภาคเอกชนระยะยาว (หุ้นกู้) ในไตรมาส 1ปี 2566 เท่ากับ 2.7 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.6% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยมีการเสนอขายหุ้นกู้ต่อนักลงทุนทั่วไป (PO: Public Offering) ในสัดส่วน 43% ของยอดการออกรวม สูงขึ้นจาก 28% ในปี 2565
"ยังยืนเป้าหุ้นกู้เอกชนปีนี้ทะลุ 1ล้านล้านบาท เพราะช่วงต้นไตรมาส2นี้มีเอกชนรายใหญ่มีแผนจะออกหุ้นกู้เข้ามาต่อเนื่อง เช่น GPSC BEM IRPC IVL CK โลตัส ADVANC และCPALL เป็นต้น ซึ่งเหตุผลสำคัญคือการบริหารในเรื่องของต้นทุนการเงิน แม้ต้นทุนในการออกหุ้นกู้จะเพิ่มขึ้นบ้างและยังถือว่าน้อยกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคารทั้งMLR MRR ที่ขยับขึ้นไปที่ 7% กว่าแล้ว ตลาดหุ้นกู้จึงยังคงเป็นแหล่งบริหารต้นทุนทางการเงินที่ดีของธุรกิจ "
สำหรับ Basel III Bond ที่มีการออกและเสนอขายในประเทศเป็นประเภท AT2 ทั้งหมด โดย ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2566 มีมูลค่าคงค้างรวม 1.7 แสนล้านบาท จาก 23 รุ่น ที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์ไทย 8 แห่ง ซึ่งมีเงินกองทุนและสถานะของธนาคารในด้านต่างๆ ที่แข็งแกร่ง ทั้งนี้เหตุการณ์ความไม่มั่นใจใน AT1 ในต่างประเทศไม่ได้ส่งผลให้เกิดการซื้อขายที่ผิดปกติของตราสารหนี้ประเภทดังกล่าวในประเทศไทย
"แบงก์ไทยจะออกหุ้นกู้เพื่อมาเป็นเงินกองทุนขั้นที่ 2เป็นหลักขณะที่เงินกองทุนขั้นที่1ยังแข็งแกร่งและเกินเกณฑ์อย่างมากโดยอยู่ที่ 19%ดังนั้นกรณีของ CSจึงไม่กระทบใดๆ อีกทั้งหากดูAT2 ที่จะครบกำหนดปีนี้มีเพียง 7,000ล้านบาทเท่านั้นด้วยสภาพคล่องและฐานะของธนาคารที่หุ้นกู้จะครบกำหนดก็ไม่มีปัญหา ในทางกลับกัน กรณีที่มีแบงก์ไปออกหุ้นกู้ต่างประเทศ จะหันกลับมาออกในประเทศแทน"
กระแสเงินลงทุนจากต่างประเทศ (Fund flow) ในเดือนมกราคม ปี 2566 นักลงทุนต่างชาติเข้าซื้อสุทธิต่อเนื่องจากสิ้นปีที่แล้ว ก่อนจะเปลี่ยนเป็นการขายสุทธิในเดือนกุมภาพันธ์จากความกังวลการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดภายหลังการประกาศตัวเลขการจ้างงานที่สะท้อนถึงเศรษฐกิจที่ยังคงขยายตัวได้ดี ถัดมาในเดือนมีนาคม เป็นการกลับเข้าซื้อสุทธิตราสารหนี้ไทยจากความกังวลในเหตุการณ์ธนาคารของสหรัฐฯ และยุโรป เมื่อรวมทั้งไตรมาส 1 ปี 2566 นักลงทุนต่างชาติมียอดการขายสุทธิสะสมที่ 2.3 หมื่นล้านบาท โดย ณ สิ้นไตรมาส 1 นักลงทุนต่างชาติมียอดการถือครองตราสารหนี้ไทยที่ 1.05 ล้านล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 6.5% ของมูลค่าคงค้างตลาดตราสารหนี้ไทยอายุคงเหลือเฉลี่ยตราสารหนี้ที่นักลงทุนต่างชาติถือครองเท่ากับ 7.8 ปี ลดลงเล็กน้อยจากสิ้นปีก่อนหน้า
เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทย (Government bond yield curve) ในไตรมาส 1 ปี 2566 มีความชัดลดลง โดยรุ่นอายุไม่เกิน 5 ปี ปรับตัวสูงขึ้นตามการคาดการณ์การปรับขึ้นอัดราดอกเบี้ยนโยบาย
ในขณะที่รุ่นอายุมากกว่า 5 ปี มีการปรับตัวลดลงจากคาดการณ์เงินเฟ้อที่มีแนวโน้มต่ำลง โดย ณ สิ้นไตรมาส 1ปี 2566 Bond yield ไทยรุ่นอายุ 2 ปี ปรับตัวสูงขึ้น 18 bps. จากสิ้นปีที่แล้วมาอยู่ที่ 1.81% ส่วน Bond yield 10 ปี ปรับตัวลดลง 23 bps. มาอยู่ที่ 2.41%
อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ภาคเอกชน (Corporate bond yield curve) อายุ 5 ปีของหุ้นกู้ค่อนข้างทรงตัวในไตรมาส 1 ปี 2566 โดยอัตราผลตอบแทนหุ้นกู้อายุ 5 ปี สูงขึ้น 2-14 bps. ในทิศทางเดียวกันกับ
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล ยกเว้นกลุ่มอันดับเครดิต AA ที่ปรับตัวลดลงเล็กน้อย โดย ณ สิ้นไตรมาส 1
ปี 2566 อันดับเครดิต AAA ปรับตัวมาอยู่ที่ 2.76% AA ที่ 2.97% A ที่ 3.28% BBB+ ที่ 4.45% และ
BBB ที่ 5.05%
ทั้งนี้ ดร.สมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) ได้กล่าวถึง
ผลสำรวจการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยของผู้ร่วมตลาดในรอบนี้ที่ส่วนใหญ่คาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 1 ครั้งไปสู่ระดับ 2.00% นอกจากนี้ผู้ตอบแบบสอบถามคาดว่า Bond yield รุ่นอายุ 5 ปี และ 10 ปี จะปรับตัวสูงขึ้นจาก ณ สิ้นไตรมาส 1 เฉลี่ยประมาณ 20 bps. ในช่วง 3 ไตรมาสที่เหลือของปี 2023 ตามทิศทางการคาดการณ์ดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ และไทย โดยปลายปี 2023 คาดว่า Bond yield 5 ปี จะขยับขึ้นไปที่ 2.18% และ 10 ปี ขยับขึ้นไปที่ 2.61%
ในโอกาสนี้ คุณอริยา ติรณะประกิจ รองกรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) ได้เปิดตัวหลักสูตรเรียนรู้ออนไลน์ “Investor e-learning platform” เพื่อเป็นแหล่งความรู้เกี่ยวกับการลงทุน
ตราสารหนี้ให้แก่ประชาชนและผู้สนใจได้ศึกษาโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ครอบคลุมสาระความรู้ที่สำคัญที่ถูกออกแบบให้เนื้อหาเข้าใจง่าย แบ่งเป็น module ต่างๆ ให้นักลงทุนเลือกเรียนได้ตามหัวข้อที่ต้องการ